ความร่วมมือระหว่าง Moldex3D และ ANSYS เพื่อตรวจสอบผลกระทบจาก Fiber ในผลิตภัณฑ์ PLA

on 04/03/2018
ประวัติผู้ใช้งาน
      

Taiwan University of Science and Technology ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2517 เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เน้นการศึกษาทางด้านเทคนิคและอาชีวศึกษาในประเทศไต้หวัน โดยเน้นการเพิ่มและขยายหลักสูตรที่แตกต่างออกไปนับตั้งแต่ก่อตั้งสถาบันขึ้น เพื่อมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมในการผลิตวิศวกรและผู้จัดการที่มีทักษะสูงในยุคต่อไป และตอบสนองความต้องการที่เกิดจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว (Source: www-e.ntust.edu.tw )

บทสรุป

แม้ว่าความต้องการในการผลิตพลาสติกที่มีคุณสมบัติเบาจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ความต้องการของความถูกต้องของรูปทรงและความแข็งแรงยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น ด้วยการเติมFiberเข้าไปในชิ้นงาน นอกจากจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของผลิตภัณฑ์ได้อีกด้วย ในงานวิจัยนี้มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งไต้หวัน (Taiwan Tech) เลือกวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ ได้แก่ Poly Lactic Acid (PLA) เพื่อจำลองและตรวจสอบผลกระทบของการบิดงอและความเครียดของชิ้นงาน ที่มีผลมาจากการวางตัวของFiber

Challenges

  • เพื่อหาว่าFiberสามารถเพิ่มความแข็งแรงของผลิตภัณฑ์ได้อย่างไร·
  • ไม่มีวิธีทดสอบมาตรฐานและกระบวนการจำลองของ PLA

Solutions

ใช้ Moldex3D Advanced และ Fiber Module เพื่อสร้าง Mesh (รูปที่ 1) ทดสอบ convergence test (รูปที่ 2) และการจำลองการฉีดขึ้นรูปพลาสติก

Fig. 1 Mesh building in Moldex3D
Fig. 2 The element convergence test
 

ประโยชน์ที่ได้รับ

  • เมื่อเทียบประสิทธิภาพจากความยาวของFiber Fiberชนิดยาวมีความต้านทานต่อการเปลี่ยนรูปและแรงดึงได้ดีกว่าชนิดสั้น
  • การร่วมมือของ Moldex3D และ ANSYS ช่วยให้ได้การจำลองแบบสมบูรณ์และแม่นยำสำหรับวัสดุ PLA
  • เพื่อหาว่าการเพิ่มFiber สามารถเพิ่มความแข็งแรงของผลิตภัณฑ์ได้

กรณีศึกษา

กรณีศึกษานี้เน้นการจำลองจากPLA PLAมีอัตราการตกผลึกที่ต่ำ ความแข็งแรงและความต้านทานต่อความร้อนต่ำ ดังนั้นทีม Taiwan Tech จึงวางแผนที่จะเพิ่มเส้นใยเพื่อปรับปรุง เริ่มแรกทีม Taiwan Tech ตรวจสอบผลการจำลองของ Moldex3D ผ่านการทดลองและพบรูปแบบการไหลที่สม่ำเสมอ (รูปที่ 3) จากนั้นจึงพยายามคาดการณ์ผลของเส้นใยระยะสั้นและยาวต่อความต้านทานการเสียรูปของผลิตภัณฑ์ และหาผลที่แตกต่างกันในสัดส่วนเส้นใยที่แตกต่างกัน สุดท้ายทีมงานได้ยืนยันผลจาก Moldex3D และ ANSYS ในการเปลี่ยนรูปและความเครียดของผลิตภัณฑ์

Fig. 3 Moldex3D simulation is verified consistent with the real case in filling pattern and sink mark

Taiwan Tech รู้ว่าการเพิ่มFiberสามารถเพิ่มความแข็งแรงของผลิตภัณฑ์ PLA อย่างไรก็ตามนักวิชาการยังคงขาดความรู้เกี่ยวกับสัดส่วนที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมไปถึงชนิดของเส้นใยที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพความแรงของชิ้นงานได้มากที่สุด ในการศึกษาครั้งนี้พบว่า Moldex3D สามารถจำลองทิศทางของเส้นใยได้อย่างถูกต้องในขั้นตอนการผลิต ผลการจำลองสามารถส่งออกจาก FEA Interface ใน Moldex3D ถึง ANSYS สำหรับการวิเคราะห์โครงสร้าง สามารถทำได้โดยง่าย 

Taiwan Tech ได้เพิ่มเส้นใยใน ​​PLA เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าเส้นใยยาวมีความต้านทานต่อการเปลี่ยนรูปได้ดีกว่าชนิดสั้น (รูปที่ 4)

Fig. 4 Compared with short fiber, long fiber has better resistance to deformation

การเพิ่มเส้นใยจะช่วยลดการเสียรูป ในกรณีศึกษานี้เส้นใยปริมาณ 25% จะทำให้เกิดการเสียรูปที่ต่ำที่สุด (รูปที่ 5)

Fig.5 Displacement results of different fiber proportion

ต่อมา Taiwan Tech ใช้ ANSYS เพื่อตรวจสอบการวิเคราะห์การเสียรูปและความเครียดของ Moldex3D ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนรูปและความเค้นใน ANSYS เป็นไปในทางเดียวกับ Moldex3D (รูปที่ 6)

Fig. 6 Moldex3D and ANSYS verification of simulation results

ผลลัพธ์

จากการทดสอบด้วย Moldex3D ข้อมูลผลลัพธ์ของFiberที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ สามารถตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ FEA ใน Moldex3D ผู้ใช้สามารถส่งออกผลการเรียงตัวของเส้นใย และเชื่อมต่อกับ ANSYS สำหรับการวิเคราะห์ FEA ได้โดยง่าย นี่ถือเป็นโซลูชันแบบครบวงจรที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้สำหรับการพิจารณากระบวนการผลิตในการคาดการณ์ของ FEA กรณีศึกษานี้ครอบคลุมไปถึงผู้ใช้งาน PLA ในอุตสาหกรรมอุปกรณ์ต่างๆ


Test drive Moldex3D

Join the thousands of companies using Moldex3D

Talk to Sales

Schedule a product demo with our sales team